ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์เสวรินทร์ สงสุรินทร์

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

อาหารภาคอีสาน2

6. น้ำตกปลาหมึก

          ในเมื่อมีเมนูลาบก็ต้องตามมาด้วยเมนูน้ำตกที่เป็นของคู่กัน ก็เพราะว่ามีวิธีทำและส่วนผสมที่คล้ายกันนั่นเอง เมนูน้ำตกฮิต ๆ ก็คงเป็นน้ำตกหมู แต่ที่เราจะนำเสนอขอเปลี่ยนเป็นน้ำตกปลาหมึกสักหน่อยดีกว่า เอาใจคนชอบกินอาหารทะเล ทำง่าย ๆ ด้วย มาดูกัน

สิ่งที่ต้องเตรียม
           • ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้น 200 กรัม
           • หอมแดงซอย 1 หัว
           • ผักชีฝรั่งซอย
           • ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
           • น้ำปลา สำหรับปรุงรส
           • น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
           • พริกป่น ปริมาณตามชอบ
           • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

           • ใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปรวนจนสุก ยกลงจาเตา ตักใส่อ่างผสมเตรียมไว้
           •  ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
7. ตับหวาน 

          เมนูอาหารอีสานสุดแซ่บจานนี้ คงจะเป็นที่โปรดปรานของคนที่ชอบกินอาหารกึ่งสุกกึ่ดิบ ที่จะนำตับหมูไปลวกพอเกือบสุก พอให้นิ่ม เพราะถ้าลวกสุกเกินไป ตับหมูจะแข็ง ไม่อร่อย ๆ นั่นเอง ส่วนใครที่รู้ตัวว่า สภาพกระเพาะไม่แข็งแรงก็ระมัดระวังกันด้วยนะจ๊ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
           • ตับหมู หั่นเป็นชิ้นบาง 200 กรัม
           • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
           • พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
           • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
           • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
           • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
           • ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
           • ใบสะระแหน่ ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

           • ต้มน้ำจนเดือดจัด นำตับหมูลงลวกจนสุก (ระดับความสุกเลือกตามความชอบ) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
           • ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นเทลงในอ่างผสมที่ใส่ตับหมูลวกไว้ เคล้าผสมให้เข้ากัน
           • ใส่ข้าวคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบมะกรูดซอย และใบสะระแหน่ลงเคล้าผสมจนเข้ากันดี ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
8. หมูมะนาว

          เมนูหมูมะนาวถือเป็นเมนูกับแกล้มสุดฮิตเลยก็ว่าได้ ไปสังสรรค์ในวงไหนก็มักจะต้องสั่งมากินคู่ทุครั้งไป รสเปรี้ยวนำ เด็ดเผ็ดแซ่บเสียเหลือเกิน ใครที่ชอบเมนูแซ่บ ๆ ต้องลองเลย วิธีทำก็ไม่ยากด้วย

สิ่งที่ต้องเตรียม
           • เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามยาว 200-300 กรัม
           • กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
           • พริกขี้หนูซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ
           • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำมะนาว 4-5 ช้อนโต๊ะ
           • ก้านคะน้า สำหรับรับประทานคู่
           • กระเทียมฝานเป็นแว่นบาง สำหรับโรยหน้า
           • ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
           • พริกแห้งทอดกรอบ สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

           • ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เนื้อหมูลงลวกพอสุก (ประมาณ 30 วินาที อย่าลวกนาน เพราะเนื้อหมูจะแข็ง) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จัดใส่จานที่รองด้วยก้านคะน้า เตรียมไว้
           • ผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาวเข้าด้วยกันจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ราดลงบนหมูที่เตรียมไว้ โรยด้วยกระเทียมฝาน ใบสะระแหน่ และพริกแห้งทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
9. ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

          ลองมาแซ่บกันในแบบอาหารอีสานประเภทต้ม ๆ กันดูบ้าง กับเมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อน กัดกรุบ ๆ ซดน้ำแซ่บ ๆ นึกถึงทีไรเป็นต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ! ถ้าพร้อมจะแซ่บแล้ว ก็ตามมาดูวิธีทำกัน

สิ่งที่ต้องเตรียม
           • น้ำ 500 มิลลิลิตร
           • ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
           • ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
           • ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 3 ใบ
           • กระดูกอ่อนหมูหั่นเป็นชิ้น ๆ 200 กรัม
           • เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
           • มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 50 กรัม
           • หอมแดงซอยบาง 1 หัว
           • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
           • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
           • พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
           • ใบโหระพา 10 ใบ
           • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

           • ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
           • ใส่กระดูกอ่อนหมูลงต้มจนสุก ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ และหอมแดงซอยลงต้ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++



10. ต้มซุปเปอร์ขาไก่

          ถ้ายังแซ่บไม่พอต้องจัดเมนูต้มซุปเปอร์ขาไก่ ถ้วยนี้ซะหน่อยแล้ว ที่รับรองเลยว่า อร่อยเด็ดถึงใจสุด ๆ กินทีไรเป็นเพลินทุกที แถมสูตรนี้ยังใส่เอ็นข้อไก่ด้วยนะจ๊ะ หรือตามไปดูวิธีทำอย่างละเอียดได้ที่นี่เลย

ส่วนผสม ต้มซุปเปอร์ขาไก่

           • น้ำเปล่า 500-700 มิลลิลิตร
           • ขาไก่ 500 กรัม
           • ข่า (หั่นเป็นแว่น)
           • ตะไคร้ (หั่นเป็นท่อน)
           • หอมแดง (ปอกเปลือก)
           • ใบมะกรูดฉีก
           • พริกสด
           • ผักชี
           • ผักชีฝรั่ง
           • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
           • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
           • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำ ต้มซุปเปอร์ขาไก่

           • ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรง จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงไปต้ม พอน้ำเดือดพล่านแล้วใส่ขาไก่ลงไปต้ม (หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง) 
           • ก่อนปรุงรสให้ตักส่วนผสมเครื่องต้มยำออกก่อนแล้วใส่ซีอิ๊วดำ น้ำปลา และซอสปรุงรสลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ  ต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที จนขาไก่เปื่อย
           • ซอยพริกขี้หนู ใบผักชีฝรั่ง ผักชี และหั่นมะนาวเตรียมไว้
           • พอต้มจนขาไก่เปื่อยแล้ว บีบมะนาวลงไป (ปริมาณตามชอบ) ตามด้วยพริกที่ซอยไว้ คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยผักชีและผักชีฝรั่งซอย พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
11. คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

          ขอปิดด้วย คอหมูย่าง ไว้กินแกล้มกับอาหารอีสานรสเด็ดทั้งหมดทั้งมวล ซึ่งสูตรนี้เป็นคอหมูย่างน้ำผึ้ง ที่มาคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว ย่างร้อน ๆ หอม ๆ อร่อยสุด ๆ สูตรนี้แค่ย่างในกระทะง่าย ๆ ก็ได้กินแล้วจ้า

          หมายเหตุ : คอหมูย่าง 1 จาน ให้พลังานโดยประมาณ 200 กิโลแคลอรี่

สิ่งที่ต้องเตรียม
           • เนื้อสันคอหมู 200 กรัม
           • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
           • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
           • ซอสหอยนางรม 1/2 ช้อนโต๊ะ
           • พริกไทยขาว 1/4 ช้อนชา
           • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
           • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
           • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
           • ข้าวคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
           • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
           • ต้มหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

           • ผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลปี๊บละลายหมดใส่พริกป่น ข้าวคั่ว และหอมแดงคนให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เตรียมไว้
           • ผสมน้ำผึ้งกับซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และพริกไทยขาว คนผสมจนเข้ากัน
           • ใช้ส้อมจิ้มสันคอหมูให้ทั่ว นำไปหมักกับส่วนผสมด้านบน พักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
           • ตั้งกระทะจนร้อน นำคอหมูลงจี่ให้สุกทั้งสองด้าน จากนั้นหั่นเป็นชิ้น จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว
ขอบคุณที่มา http://cooking.kapook.com/view92663.html

อาหารภาคอีสาน1

         1. ส้มตำไทยไข่เค็ม
          เปิดประเดิมอาหารอีสานด้วยเมนูส้มตำกันก่อนเลยดีกว่า เพราะนึกถึงอาหารอีสานทีไรก็ต้องส้มตำเป็นอันดับแรก แต่จานนี้ขอเสิร์ฟเป็นส้มตำไทยไข่เค็ม เผื่อว่าคนที่ไม่กินปลาร้า หรือไม่กินปู ก็สามารถแซ่บนัวไปด้วยกันได้

          หมายเหตุ : ส้มตำไทยใส่ไข่เค็ม (1 ฟอง) 1 จาน ให้พลังงานโดยประมาณ 130 กิโลแคลอรี่

ส่วนผสม ส้มตำไข่เค็ม

          • กระเทียมกลีบเล็ก 3-5 กลีบ
          • พริกขี้หนู ปริมาณตามชอบ
          • ถั่วฟักยาว 1 ฝัก
          • กุ้งแห้งอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
          • มะเขือเทศสีดา 2 ลูก
          • น้ำปลา (ปรุงรส)
          • น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)
          • น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)
          • น้ำมะนาว (ปรุงรส)
          • มะละกอสับ
          • แครอทสับ
          • ไข่เค็มผ่าครึ่ง 1 ฟอง
          • ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ ส้มตำไข่เค็ม

          • โขลกกระเทียม และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันพอหยาบ หักถั่วฝักยาวใส่ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ๆ และกุ้งแห้งลงไปโขลกเบา ๆ พอให้ให้เข้ากัน
          • ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว โขลกให้น้ำตาลปี๊บละลาย ชิมรสตามชอบ 
          • สุดท้ายใส่มะละกอ และแครอทลงไปตำผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ไข่เค็มลงไป ใช้ทัพพีเคล้าผสมเบา ๆ ชิมรสอีกครั้ง ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

+++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
2. ส้มตำข้าวโพดกุ้งสด

          ส้มตำทั่วไปก็กินจนเบื่อลองเลปี่ยนแนวมากินเมนูส้มตำข้าวโพดกุ้งสด สูตรจาก คุณ Angelisa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับข้าวโพดคลุกเคล้ากับเครื่องส้มตำ ปรุงรสตามชอบ สีสันสวยงามน่าทานมากเลยค่ะ

ส่วนผสม ส้มตำข้าวโพดกุ้งสด

          • ข้าวโพดต้ม
          • ถั่วฝักยาว
          • มะเขือเทศ
          • แครอทฝานเป็นเส้น ๆ 
          • พริกขี้หนู
          • กระเทียมสับหยาบ
          • น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
          • น้ำตาลมะพร้าว
          • ถั่วลิสงอบ

วิธีทำส้มตำข้าวโพดกุ้งสด

          • 1. ฝานข้าวโพด หั่นถั่วฝักยาว หั่นมะเขือเทศ และฝานแครอทหั่นเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
          • 2. ปรุงน้ำยำโดยใส่พริกขี้หนู กระเทียมสับ น้ำปลาลดโซเดียม น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 
          • 3. นำน้ำยำไปคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้ โรยถั่วลิสงอบ 



+++++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
3. ลาบหมู 

          ในเมื่อมีเมนูส้มตำแบบเบา ๆ แล้วแล้วก็มาเติมเต็มความอิ่มกันด้วยเมนูลาบหมูสักหน่อย อีกหนึ่งเมนูที่จะขาดไปไม่ได้เลยกับเสน่ห์กลิ่นข้าวคั่วหอม ๆ เคล้ากับเนื้อหมูรวนสุก โรยใบสะระแหน่ จกกับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยนักแล ยิ่งในสมัยนี้ทำกินเองง่ายมาก ๆ เพราะมีผงปรุงลาบ-น้ำตกวางขายกันให้เกลื่อน !

สิ่งที่ต้องเตรียม

           • เนื้อหมูสับ 200 กรัม
           • หอมแดงซอย 1 หัว
           • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
           • ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
           • น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
           • พริกป่น ปริมาณตามชอบ
           • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          •  ใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อหมูสับลงไปรวนจนสุก ยกลงจากเตา

          •  ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
4. ลาบปลาดุก

          อีกหนึ่งเมนูลาบที่จะขาดไปไม่ได้เลยกับ ลาบปลาดุกย่าง ต้องสั่งมาแจมด้วยเสมอ ก็เพราะกลิ่นหอม ๆ ของปลาดุกย่าง จับมาเคล้าเครื่องเคียง ปรุงรสให้แซ่บ อูย ! นึกแล้วก็น้ำลายสอ กินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ แบบนี้ก็ฟินสิจ๊ะ ! ถ้าอย่างนั้นก็มาดูวิธีทำลาบปลาดุกกันเลย หรือจะลองเข้าไปดูวิธีทำแบบละเอียด เห็นภาพขั้นตอนการทำกับแบบจะจะได้ที่ ลาบปลาดุกย่าง อาหารอีสานสูตรเด็ดสำหรับมือใหม่

สิ่งที่ต้องเตรียม

           • ปลาดุกย่าง 1 ตัว
           • ข่าอ่อน เล็กน้อย
           • ใบมะกรูดซอย
           • พริกสดซอย เล็กน้อย
           • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
           • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
           • น้ำมะนาว 1 ลูก
           • ผงชูรส ตามชอบ
           • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
           • ต้นหอมและผักชีซอย
           • ใบมะกรูดซอย

วิธีทำ

           • แกะปลาดุกเอาแต่เนื้อ จากนั้นนำไปสับรวมกับข่าอ่อนเล็กน้อย ใส่ลงในอ่างผสม เตรียมไว้ (ถ้าชอบแบบน้ำขลุกขลิกก็เติมน้ำต้มสุกลงไปเล็กน้อย)
           • ใส่พริกสดซอย ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำมะนาว ผงชูรส และน้ำปลา คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ
           • สุดท้ายโรยต้นหอมผักชีซอย และใบมะกรูดซอยลงไป เคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++

11 สูตรอาหารอีสาน รสเด็ดแซบนัว
5. ซุปหน่อไม้

          อีกหนึ่งเมนูในตระกูลลาบ ซึ่งนอกจากซุปหน่อไม้จะเป็นที่โปรดปรานของคออาหารอีสานแล้ว ยังเหมาะกับคนที่กำลังลดความอ้วนด้วยนะคะ เพราะซุปหน่อไม้ถ้วยเดียว ให้พลังงานต่ำมาก ๆ แต่ก็กินในปริมาณที่พอดีนะคะ เพราะหน่อไม้กินมากจะไม่ดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ

          หมายเหตุ : ซุปหน่อไม้ 1 จาน ให้พลังงานโดยประมาณ 40 กิโลแคลอรี่

สิ่งที่ต้องเตรียม

           • ใบย่านาง 5-10 ใบ
           • หน่อไม้รวก ขูดเป็นเส้นยาว
           • น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
           • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
           • หอมแดงซอย 3 หัว
           • น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
           • น้ำปลา สำหรับปรุงรส
           • พริกป่น ตามชอบ
           • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
           • ผักชีฝรั่งซอย
           • ต้นหอมซอย

วิธีทำ

           • ขยี้ใบย่านางกับน้ำจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม กรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่หม้อ เตรียมไว้
           • ต้มน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้รวกลงต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นบีบน้ำออกจากหน่อไม้ให้หมด แล้วใส่ลงในน้ำใบย่านางที่เตรียมไว้ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่น และน้ำปลาร้าลงไป ต้มจนเดือด ยกลงจาเตา เตรียมไว้
           • ตักหน่อไม้ใส่อ่างผสม ใส่หอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว เคล้าผสมให้เข้ากน ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีฝรั่งซอย และต้นหอมซอย เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

+++++++++++++++
ขอบคุณที่มา http://cooking.kapook.com/view92663.html